บ้านสองชั้นอิฐปนไม้

บ้านสองชั้นอิฐปนไม้ หากพูดถึงสไตล์การสร้าง บ้าน แบบคลาสสิกแล้ว บ้านอิฐก็ต้องเป็นหนึ่ง ในรูปแบบงานก่อสร้างที่ได้รับความนิยมตั้งแต่ อดีตจนมาถึงปัจจุบันแน่นอน เนื่องจากอิฐเป็นวัสดุก่อสร้างที่มี ความโดดเด่นไม่ซ้ำใคร ผู้อยู่อาศัยจะสัมผัสได้ถึงความโดดเด่น ในมุมมองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโทนสีแดงที่ดูอบอุ่น พื้นผิวสัมผัสที่ให้ความเป็นธรรมชาติ ดูแลรักษาง่าย รวมถึงความแข็งแรงที่ มอบความปลอดภัยกับผู้อาศัย เป็นต้น

บ้านสองชั้นอิฐปนไม้

บ้านโครงสร้างอิฐ ผสานความเป็นธรรมชาติด้วยงานไม้ เป็นสไตล์การตกแต่งบ้านที่ ผสมผสานความเป็น ธรรมชาติเข้าด้วยกันระหว่างอิฐกับไม้ โดยตัวโครงสร้างของบ้าน จะทำจากอิฐให้ความรู้สึกที่คลาสสิก และแข็งแรง ส่วนงานตกแต่งสวยงามอื่น ๆ เช่น ระเบียง ก็จะใช้ไม้มาช่วยตกแต่ง ซึ่งความเหลี่ยมที่แข็ง กระด้างของอิฐจะถูกทำให้กลมกลืนด้วยความประณีตของงานไม้ ทำให้บ้านดูนุ่มลึก และอบอุ่นยิ่งขึ้นไปอีก

แบบบ้านสองชั้นอิฐปนไม้ ไม่เรียบแต่เนี๊ยบ ให้กลิ่นอายทะเล

บ้านสองชั้น ยังคงเป็นรูปแบบ ที่อยู่อาศัยที่พบเห็นได้ทั่ว ไปในบ้านที่มีสมาชิกค่อนข้างมาก หลายคนที่ไม่ชอบบ้านที่หน้าตาเหมือน ๆ กันแบบบ้านจัดสรรก็ยัง มองหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการสร้างบ้านในฝัน ให้ตรงใจ สำหรับคนที่ชอบ Mood&Tone สะอาด ๆ ไม่ต้องเยอะ มีความเป็นธรรมชาติ ไม่เรียบแต่ยังเนี๊ยบ ได้กลิ่นอาย marine หรือทะเลนิด ๆ แบบบ้านตากอากาศ น่าจะชอบบ้านหลังนี้ที่รวม ทุกองค์ประกอบ ที่ว่ามาในหลังเดียว

บ้านนี้ตั้งอยู่อย่าง โดดเด่นบนบล็อกมุมสูงบน Marine Terrace ริมทะเลของ Fremantle โดยเป็นส่วนต่อเติมหลังบ้านต่อจากกระท่อมอิฐที่มรดกสืบทอดกันมา ดังนั้นจึงต้องการดึงเอกลักษณ์เฉพาะที่เป็น ส่วนร่วมกันเอาไว้ แล้วใส่แนวคิดทางสถาปัตยกรรมใหม่ ๆ เข้าไป สะท้อนถึงไลฟ์สไตล์สบาย ๆ และอบอุ่นที่กระจายอยู่ในแปลนบ้าน วัสดุ และรายละเอียด ตั้งแต่กำแพงถึงหลังคา

กำแพงบ้านทำจากหิน ก้อนใหญ่ที่เต็มไปด้วยรูพรุน ฉาบด้วยปูนพลาสเตอร์แบบหยาบๆ เพื่อให้เห็น texture และสีของก้อนหินที่เข้ากัน กับสีพื้นทางเดิน โดยเจาะช่องเปิดขนาดใหญ่เป็นทางเข้าสีอ่อนๆ ของกำแพงทำให้ตัวบ้านที่ทำจากไม้สีเข้มขึ้นมีความชัดมากขึ้น

เมื่อเดินผ่านมุมนั่งเล่น outdoor และประตูบ้านที่เปิดกว้าง เข้ามาจะพบกับพื้นที่รับประทาน อาหารและห้องครัวที่หันไปทางทิศเหนือ และตรงกลางห้องมีโต๊ะไม้ยาว สีอ่อนละมุนตาสำหรับรับ ประทานอาหารแบบครอบครัว พื้นปูนเปลือยสีเทาเย็น ๆ

เดินสบายเท้าแบบไม่มียาแนวให้สะดุด ข้างๆ มีที่นั่งก่อจากคอนกรีตวาง อยู่ด้านหลังห้อง ปูด้วยเบาะรองนั่งแสนสบาย ใช้เป็นที่พักผ่อน หรืออ่านหนังสือริมหน้าต่าง วัสดุที่ใช้ในบ้านหลัก ๆ ไม้อัด คอนกรีต ระแนงไม้ซีดาร์ ไม้เบิร์ช อิฐโชว์แนวทาสีขาวที่ดูอบอุ่นผ่อนคลายให้บรรยากาศแบบบ้านตากอากาศ

ห้องครัวแบบเปิด มีเคาน์เตอร์ยาวติดผนังสำหรับ เตรียมอาหาร มาพร้อมไอส์แลนด์ ตัวใหญ่ที่ชวนให้มาต้ม ผัด แกง ทอด วัสดุที่ใช้ตกแต่งมุมนี้ยังคงคุมธีมสี และชนิดแบบเดียวกันกับพื้นที่อื่นๆ จุดที่ชวนสะดุดตา คือชั้นวางแขวนแบบเปิดโล่งที่มีเสาเหล็กสีดำบางเฉียบยื่นยึด ลงมาจากเพดานบนผนังเหนือครัว แสดงชุดถ้วยชามเซรามิคที่เจ้าของบ้านเก็บสะสมเอาไว้ดูราวกับ เป็นแกลเลอรีงานศิลป์ส่วนตัว

บันไดทาสีขาวที่สว่างไสวในตอนกลางวัน จากแสงที่ผ่านหน้าต่างยาวบนผนัง นำไปสู่ห้องนอนใหญ่ ของผู้คุณพ่อคุณแม่ ซึ่งมีห้องน้ำในตัว และตู้เสื้อผ้าแบบวอล์กอิน บันได ประตูหลังที่นำไปสู่ห้องเก็บของขนาดเล็ก และที่จอดรถกลางแจ้งที่อยู่ไกลออกไป

ห้องชุดห้องนอนใหญ่ พร้อมระเบียงบนชั้นสอง ห้องทาสีขาวด้านหน้ามีแผงกระจก ขนาดใหญ่ที่สามารถเลื่อนกลับไปมาได้ เพื่อให้สามารถเข้าถึง ระเบียงกลางแจ้งขนาดเล็ก ได้อย่างง่ายดาย จะเปิดรับลม และแสงทั้งวันหรือปิดในเวลาที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ก็เลือกได้ตามใจชอบ บ้านจัดสรร

การสร้างบรรยากาศของบ้าน ให้มีอารมณ์แบบชายหาด สามารถทำได้ง่ายๆ โดยใช้วัสดุที่หาได้ใน ธรรมชาติมาเป็นส่วนประกอบของบ้าน อาทิ หิน กรวด ทราย ไม้ และอิฐทาสีขาว ในส่วนของไม้ควรเลือกชนิดที่มี คุณสมบัติในการปกป้องบ้านจากสภาพอากาศ ในไทยต้องยกให้ไม้สัก ส่วนไม้จากต่างประเทศจะเป็นไม้ ซีดาร์ที่นิยมนำมา ทำวัสดุมุงหลังคาเพราะทนความชื้นได้ดี

ทำความรู้จักกับอิฐแต่ละประเภท

1.อิฐมอญ
อิฐมอญ หรืออิฐแดง หรืออิฐดินเผา อิฐก่อสร้างยอดนิยม ที่มีส่วนประกอบหลักคือดินเหนียว ทรายหรือขี้แกรบ และน้ำ ผสมกันในอัตราส่วนที่เหมาะสม จากนั้นจึงนำไปใส่แบบพิมพ์อัดเป็นก้อนสี่เหลี่ยม ทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วนำไปเผาเพื่อให้มีความแข็งแรงและคงรูปร่างไว้ เป็นอิฐที่ถูกใช้ งานก่อสร้างมาหลายสิบปี เพราะคุณสมบัติที่ทนทานต่อสภาพอากาศในประเทศไทย

ข้อดีของอิฐมอญ

• สามารถยึดเกาะได้ดี มีความหนาแน่นสูง
• แข็งแรง ทนทานต่อสภาพอากาศในไทย
• หาซื้อได้ง่าย มีราคาไม่แพง
• สามารถทนไฟได้ประมาณ 2 ชั่วโมง
• สามารถรับน้ำหนักได้ 30 กิโลกรัม/1 ตารางเซนติเมตร
• เป็นอิฐที่เกิดจากกระบวนการผลิตด้วยการเผาตามภูมิปัญญาชาวบ้าน จึงทำให้มีสีสันที่มีความคลาสสิค เป็นเสน่ห์ที่หลายคนชื่นชอบ

ข้อจำกัดของอิฐมอญ

• ดูดความชื้น
• สะสมความร้อน
• อิฐมอญส่วนใหญ่ผลิตจากชุมชน อาจมีคุณภาพ มาตรฐาน และขนาดไม่สม่ำเสมอ
• มีคุณสมบัติอมความร้อน ส่งผลทำให้บ้านร้อนได้
• มีขนาดเล็ก จึงใช้เวลาก่อสร้างค่อนข้างนาน และค่าแรงก่อสร้างแพง
• ค่อนข้างมีปัญหาเรื่องการเก็บเสียง

2.อิฐบล็อก
อิฐที่ทำจากปูนซีเมนต์และทราย ซึ่งถูกผลิตในลักษณะอุตสาหกรรม มากกว่าอิฐมอญ ส่วนใหญ่จะมีสีเทาตามสีของส่วนประกอบที่ใช้ผลิต โดยมีลักษณะเด่นคือมีรูกลวงตรงกลาง ช่วยให้นำหนักเบาขั้น และช่วยถ่ายเทความร้อนได้ดีกว่าอิฐมอญ โดยนิยมใช้กับงานก่อสร้างทั่วไป เหมาะสำหรับงานที่ เน้นการคุมค่าใช้จ่าย เพราะราคาถูกและใช้เวลาสร้างเร็วกว่าอิฐมอญ

3.อิฐมวลเบา
อิฐมวลเบาเป็นอิฐ ที่มีการคิดค้นขึ้นมาใหม่ มีส่วนประกอบหลัก คือปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ อะลูมิเนียมที่ใช้ในการก่อฟองอากาศ ยิปซัม ปูนขาว ทรายละเอียด และน้ำ ผ่านกระบวนการผลิตที่ทัน สมัยทำให้อิฐแต่ละก้อนมีขนาดมาตรฐาน มีน้ำหนักเบา ช่วยลดการสูญเสียในการก่อสร้าง จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับ การทำผนังบ้านที่ต้องการลดน้ำหนักของโครงสร้าง

4.อิฐขาว
อิฐขาวมีส่วนประกอบของปูนขาว และทราย มีการผลิตโดยเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยการอัดด้วยเครื่องจักรที่มีความดัน และอบด้วยความร้อนสูง อิฐขาวจึงมีความแน่น แข็งแรง และทนทานมาก เหมาะสำหรับงานก่อสร้างทุกชนิด

ขนาดมาตรฐานของอิฐขาวคือกว้างประมาณ 11 เซนติเมตร ยาวประมาณ 24 เซนติเมตร และหนาประมาณ 6.5 เซนติเมตร

ข้อดีของอิฐขาว

• สามารถใช้ปูนก่อ ปูนฉาบ และพุก แบบเดียวกับอิฐมอญได้
• มีการผลิตจากโรงงานเหมือนอิฐมวลเบา จึงมีมาตรฐาน ขนาดก้อนเท่ากัน ช่วยให้ง่ายต่อการก่อแนวดิ่งและฉาก
• มีความแข็งแกร่ง ทนทานต่อการใช้งาน
• ประหยัดเวลาในการก่อสร้างจึงลดค่าแรงงานก่อสร้าง
• ทนความร้อนได้ดี โดยสามารถทนไฟได้นานกว่า 4 ชัวโมง
• สำหรับการก่อสร้างที่ต้องการโชว์แนวผนัง อิฐขาวถือเป็นทางเลือกที่ดี

ข้อจำกัดของอิฐขาว

• หาซื้อค่อนข้างยาก เพราะร้านไม่ค่อยมีสต๊อกสินค้า ต้องสั่งจากร้านที่ขายหรือโรงงานผลิตโดยตรง
• มีราค่าค่าจัดส่งสูง
• ราคาสูงกว่าอิฐมอญและอิฐบล็อก