แนะนำไอเดียออก แบบบ้านสไตล์รีสอร์ท ฟรี สิ่งจำเป็นที่การสร้างบ้าน ต้องสร้างตามใจผู้อยู่ ไม่ว่าจะเป็นแบบบ้าน สไตล์การตกแต่ง การเลือกใช้ฟังก์ชันต่างๆเพื่อรองรับความต้องการแล้วก็ไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่ แต่ว่าบ้านนั้นจะสวยเพอร์เฟ็คยิ่งขึ้นหากแบบบ้านและก็การตกแต่งนั้นมีแนวทางที่แจ้งชัด ให้ความรู้สึกที่ดียามเมื่อมองด้วยตาเปล่า แล้วก็มีความสุขผ่อนคลายยามพักอาศัย
แนะนำไอเดียออก แบบบ้านสไตล์รีสอร์ท ฟรี
บ้านสไตล์โรงแรม บ้านที่ผสมผสานความเป็นธรรมชาติกับพื้นที่ของบ้านอีกทั้งข้างในและภายนอก ทำให้ผู้อยู่อาศัยได้สัมผัสบรรยากาศของบ้านสนิทสนมธรรมชาติที่โปร่งสบาย ร่มรื่น ชวนผ่อนคลายเปรียบเสมือนพักในบังกะโลส่วนตัวในทุกๆวัน โดยไม่ต้องคอยวันหยุดหรือวันว่าง
การออกแบบบ้านสไตล์รีสอร์ท จะแบ่งแยกพื้นที่เป็น 3 ส่วนหลักเป็น พื้นที่ด้านในภาย พื้นที่ข้างนอกบ้าน แล้วก็ลานกิจกรรมส่วนกลางที่มีความเป็นธรรมชาติ โครงการบ้าน แล้วก็เป็นส่วนเชื่อมโยงพื้นที่ภายนอกรวมทั้งภายใน มีฟังก์ชันรองรับไลต์สไตล์อย่างพร้อม แล้วก็ด้วยพื้นที่ที่ถูกเติมเต็มไปด้วยธรรมชาตินี้ ก็เลยนำมาซึ่งความเด่นของบ้านสไตล์รีสอร์ทที่ชนะใจคนรักธรรมชาติ
โค้งจรรโลงใจ บ้านที่เปิดรับความขจีของธรรมชาติ – แนะนำไอเดียออก แบบบ้านสไตล์รีสอร์ท ฟรี
บ้านบางข้างหลังที่ทำการปรับปรุงใหม่ ไม่ใช่เนื่องจากของเดิมที่มีอยู่ “ไม่ดี” เพียงไม่ตอบปัญหากับการใช้งาน ซึ่งถ้าเกิดย้อนเวลากลับไปในช่วงเวลาที่สร้างบ้านขึ้นมาในตอนแรก จำต้องผ่านกระบวนการคิด ตัดสินใจมาแล้ว ว่าพื้นที่นี้จำเป็นต้องแบบงี้
ห้องนั้นควรเป็นแบบนั้น แม้กระนั้นด้วยช่วงเวลาที่ผ่านไป หลายสิ่งมีการเปลี่ยน ทั้งยังเรื่องการใช้ชีวิต อายุของผู้อาศัย รวมทั้งกิจกรรมบางสิ่งที่บางทีอาจจำต้องทำมากขึ้น สิ่งที่ตอบปัญหาในช่วงเวลานั้น ก็เลยไม่ได้ตอบปัญหาตอนนี้ เพียงเท่านั้น
เป็นบ้านที่รับการออกแบบปรับปรุงใหม่จากบ้านข้างหลังเดิมที่แก่มากยิ่งกว่า 72 ปี ย้อนไปเมื่อปี คศ.1950 Kenneth Lind ได้ออกแบบและก่อสร้างบ้านขึ้นเพื่อการพำนักของครอบครัวตอนนั้น ระยะเวลาที่ผ่านมาอย่างช้านาน ทำให้สภาพตึก รวมถึงฟังก์ชันบางอย่างไม่ตอบรับกับการพำนักในปัจจุบัน ก็เลยเป็นเหตุผลที่ Talbot McLanahan Architect ต้องเข้ามาทำการเปลี่ยนแปลง
โจทย์ที่เจ้าของบ้านได้แจ้งเอาไว้ คือ ต้องการให้บ้านมีสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะสามารถมองเห็นต้นเรดวู้ดต้นใหญ่ที่มีอยู่เริ่มแรก ขายบ้าน และก็ตัวบ้านได้อารมณ์เหมือนถูกปิดล้อมด้วยความอบอุ่นอยู่ตลอด
ดูจากถนนหนทางหน้าบ้าน จะมองเห็นเพียงแค่ตึกชั้นเดียวทรงสี่เหลี่ยม ทรงเรียบง่ายปกติ แม้กระนั้นเมื่อได้เบาๆเดินผ่านโรงจอดรถยนต์เข้ามาเรื่อยจะเจอกับความมหัศจรรย์ใจ ราวกับกำลังเดินเข้าสู่ป่า ความเขียวขจีจะเผยตัวตนให้เห็นชัดขึ้นๆในทุกๆครั้งที่ย่างก้าว
ไม่ได้มีเพียงความสุนทรีจากธรรมชาติเท่านั้นที่ซ่อนอยู่ ยังมีความแปลกใหม่ทางด้านสถาปัตยกรรมร่วมอยู่ด้วย ผนังบางส่วนของบ้านมีการวางแบบให้โค้งมน ด้วยการเฉือนผนังเดิมบางส่วนออก เหตุผลเพราะต้องการให้มองเห็นพื้นที่ภายนอกในขณะที่ใช้ชีวิตอยู่ภายในบ้านได้อย่างเต็มตา
ห้องนั่งเล่นหรือห้องรับแขกค่อนข้างเปิดกว้าง ปูพื้นด้วยกระเบื้องแผ่นใหญ่ ผนังทาสีขาวนวล พิถีพิถันในการเลือกเฟอร์นิเจอร์ โดยคุมธีมร่วมสมัยเอาไว้ ฟังก์ชันที่ปรับปรุงใหม่จึงมีสายสัมพันธ์อันดีกับบ้านหลังเดิมอยู่เสมอ
พื้นที่ทำกับข้าวรวมทั้งทานอาหารเกี่ยวเนื่องกัน ไอซ์แลนด์ทอปหินอยู่ตรงใจกลางห้องเชื่อมต่อกับโต๊ะทานอาหารขนาด 8 ที่นั่ง บิลท์อินตู้ที่มีไว้สำหรับเก็บของ ได้อีกทั้งความเป็นระเบียบรวมทั้งเพิ่มสัดส่วนของขอบเขตการใช้งาน หน้าต่างกระจกเห็นสวนนอกบ้านได้ระหว่างที่ทำแล้วก็ทานอาหาร ทำให้รู้สึกเพลิดเพลิน ไม่ต้องรีบเร่ง ดื่มด่ำกับอาหารได้อย่างสบายใจ
ห้องนอนมองเห็นต้นไม้ใหญ่และก็สวนเขียวชอุ่มผ่านฝาผนังกระจก เพิ่มความอบอุ่นด้วยเตาผิง เปลี่ยนการนอนพักที่เป็นกิตการปฏิบัติปกติในทุกๆวัน ให้เป็นช่วงเวลาที่แสนพิเศษแล้วก็มีความหมายยิ่งขึ้น เช่นเดียวกันห้องอาบน้ำที่มีการเจาะช่องแสงบนหลังคา ขณะที่นอนแช่น้ำก็เลยเหมือนได้รับพลังจากแดด แสงจันทรา เติมความรู้สึกผ่อนคลายให้เต็มอิ่ม เหมือนได้พักที่รีสอร์ทสุดหรูทุกวัน
บ้านแห่งความสุนทรี รวมทุกอารมณ์ด้านดีไว้ในหลังเดียว
มลภาวะ ความวุ่นวาย หล่อหลอมให้อารมณ์ด้านร้ายมีพลัง แม้กระนั้นเมื่อใดก็ตามที่พาตัวเองไปอยู่ในสถานที่สงบ ผ่อนคลาย ไม่มีความคลุ้งซาน อารมณ์ด้านดีก็จะก่อตัวอย่างเร็ว แน่นอนว่าเราไม่อาจจะเดินทางไปยังสถานที่ที่มีบรรยากาศอย่างที่กล่าวมาได้ทุกครั้งที่อยากได้ ควรต้องตกแต่งบ้านที่อยู่ที่อาศัยในทุกๆวัน ให้เป็นแหล่งสะสมพลังด้านดีเอาไว้มากที่สุด อย่างน้อยที่สุดก็ทำให้ลดพลังของอารมณ์ร้ายที่พกกลับมาจากข้างนอก ให้เบาๆจางหรือมลายหายไปในทันที
แค่เห็นด้วยตา ก็สัมผัสตรงถึงใจ ประโยคดังกล่าวมิได้เกินจริงเลยสำหรับบ้านสองรุ่นหลังนี้ ด้วยการออกแบบภายนอกยังคงความร่วมยุคที่มองสบายตาเอาไว้ ประกอบกับโทนสีที่มีความเย็น สุขุม แล้วก็ชวนให้รู้สึกถึงความสงบ ผนังเซาะร่องตามแนวนอน ถูกแต่งแต้มด้วยสีเทาอ่อนๆยิ่งทำให้ประตูบ้านสีน้ำเงินเข้มมองเด่นสะดุดตาได้ในทันที
ตัวบ้านโซนข้างหน้าดีไซน์ให้เป็นสองชั้น ส่วนโซนข้างหลังนั้นเป็นหลักที่ชั้นเดี่ยวที่เชื่อมต่อกับสวนและก็สระข้างหลังบ้าน ที่ตั้งดวงใจตกแต่งไว้อย่างงดงาม เหมาะสมกับการใช้ชีวิตที่โล่งแจ้งอีกทั้งในวันปกติและก็วันสุดสัปดาห์
ภายในบ้านสบายตาไม่ต่างจากด้านนอก เป็นธีมที่เจ้าของบ้านประสงค์อยากให้เป็น ฝาผนัง ฝ้า เพดานสีขาว เมื่อใช้พื้นไม้สีน้ำตาล ความอบอุ่นก็เลยยิ่งสองเท่า รวมทั้งไม่ได้ทำให้รู้สึกเลี่ยนความสว่างมากเกินไป
สำหรับบทความนี้ขอเน้นพาไปดูพื้นที่โซนด้านหลังที่เป็นชั้นเดียว กระทำดีไซน์ผังแบบ Open Plan เชื่อมฟังก์ชันเข้าไปด้วยกันอย่างลื่นไหล อาจจะความปลอดโปร่งเอาไว้รอบทิศทาง บ้านสไตล์มินิมอล โดยอาศัยเฟอร์นิเจอร์อีกทั้งแบบใบเสร็จรับเงินท์อินและลอยตัว มาเป็นตัวระบุพื้นที่ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
เจาะช่องแสงบนหลังคา ให้นำพาความสว่างมาสู่พื้นที่ข้างล่างซึ่งตรงกับรอบๆของห้องครัวพอดี ส่วนผนังตรงเคาน์เตอร์ได้ทำการเจาะช่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าติดหน้าต่างกระจก นอกจากจะได้รับแสงแล้ว ยังช่วยสำหรับการระบายอากาศ ลดความชื้น และได้ดูวิวสวนสีเขียวขณะทำของกินด้วย
แบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งของบ้านไว้สำหรับเป็นห้องทำงาน โต๊ะไม้ตัวยาววางใกล้ติดผนังด้านหนึ่ง ส่วนผนังฝั่งตรงกันข้ามเป็นชั้นสีขาวขนาดใหญ่ ไว้วางหนังสือ แฟ้มเอกสาร โดยมีทั้งส่วนที่เปิดโปร่งไร้หน้าบานและส่วนที่มีหน้าบานปิด เพิ่มความเป็นระเบียบเรียบร้อย
ห้องน้ำแต่ละห้องไม่ไร้แสง เพราะมีช่องหน้าต่างกระจกบานเกล็ดไว้รับแสงธรรมชาติ แบ่งโซนแฉะ โซนแห้งด้วยกระจกกัน ปูพื้นด้วยกระเบื้องสีอ่อน อาจความสะอาดตาเอาไว้เฉกเช่นห้องอื่นๆของบ้าน ทุกวันที่ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังนี้ ไม่ว่าจะชั้นไหน มุมไหน ก็จะได้รับความรู้สึกดีที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
เจ้าของบ้านที่อยากได้บ้านที่มีอารมณ์เป็นธรรมชาติ แต่ว่าไม่ได้อยากได้ไม้แท้ ด้วยเหตุว่ากังวลเรื่องปลวก เรื่องความชื้นหรือราคาที่บางทีอาจเกินงบประมาณ ถ้าเป็นบ้านชั้นเดียวที่พื้นออกจะติดดิน เป็นห่วงเรื่องความชุ่มชื้น ควรจะเลือกใช้สิ่งของที่มีแข็งแรง ดังเช่น กระเบื้อง แม้กระนั้นถ้าเป็นหลักชั้นสองสามารถใช้อุปกรณ์ลายไม้ได้หลากหลายชนิดเลยครับ ทั้งยังพื้นลามิเนต ไวนิล กระเบื้องยาง ฯลฯ
พูลวิลล่ากลางธรรมชาติ โอบรับบรรยากาศเขตร้อน
ขณะที่หน้าหนาวยังมาไม่ถึง พวกเราก็คิดแต่เมื่อใดหนออากาศหนาวจะมาเยี่ยม แต่ว่าพอร่างกายปะทะลมหนาวเข้าจริงๆก็เริ่มกลับไปนึกถึงกลิ่นความสดชื่นมีชีวิตชีวาของฤดูร้อนกันอีกแล้ว แน่นอนว่าตอน Summer ไม่มีตรงไหนดีไปกว่าการหลบไปท่องเที่ยวตามสถานที่ธรรมชาติ
ซึ่งจะเป็นที่ไหนก็ช่างความชอบของแต่ละคน บางคนขอปลีกตัวเข้าป่า แต่ว่าบางบุคคลขอเริงร่าอยู่ริมทะเลดีมากยิ่งกว่า และก็ถ้าใครถูกใจอย่างหลังต้องถูกใจวิลล่าในแคริบเบียนที่เห็นปุ๊บรู้สึกเย็นสบายผ่อนคลายปั๊บแน่นอนครับ
Caribbean Courtyard Villa ตั้งอยู่ในเมือง Puerto Viejo ซึ่งเป็นเมืองริมฝั่งทางตะวันออกเฉียงใต้ของคอสตาริกา โครงการบ้านพักตากอากาศขนาด 495 ตร.ม. นี้ ซ่อนตัวอยู่ในป่าบนพื้นที่ลาดเอียงใกล้หาดชิกีตา โดยแนวคิดหลักสำหรับเพื่อการออกแบบหมายถึงการสร้างพาวิลเลียนที่มองโปร่งสบายโอบรับบรรยากาศเขตร้อน
ในขณะเดียวกันก็ผสมผสานกับป่า สร้างความรู้สึกเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันผ่านลานภายใน Studio Saxe จึงได้ลงมือสานสิ่งของธรรมชาติ ออกมาเป็นพูลวิลล่าที่เต็มไปด้วยต้นไม้เขตร้อนในป่าริมชายฝั่งทะเลที่แสนสดชื่น
วัสดุที่ใช้พยายามเน้นที่มาจากท้องถิ่น ไม่แปลก Phuket ไม่แหวกแนวมาก เพื่อสถาปัตยกรรมที่สร้างขึ้นกลมกลืนกับบริบทแวดล้อม เริ่มตั้งแต่ทางเข้าที่เลือกแผ่นหินมาเป็นกำแพง ประตูไม้มีหลังคากันสาดโครงสร้างเหล็กติดตั้งไม้รแะแนงช่วยกรองแดด เป็นการต้อนรับเข้าสู่โลกอีกใบที่อบอวลด้วยคำว่า “ธรรมชาติ”
กลยุทธ์การออกแบบจะเป็นการรวมกลุ่มตึกโปร่งๆเหมือนศาลา มีทั้งหมด 5 ศาลา ส่วนศาลาเล็กๆ4 หลังที่อยู่ในพื้นที่ระดับต่ำกว่าเป็นโมดูลรูปทรงสี่เหลี่ยมเหมือนกัน ภายในเป็นห้องพักที่มีห้องนอนและห้องน้ำ ในศาลาที่อยู่สูงขึ้นมากยิ่งกว่าเป็นอาคารใหญ่ใช้เป็นหลักที่ส่วนกลางเป็นร้านอาหารรวมทั้งจุดบริการ
โดยจัดวางให้ทุกอาคารเรียงล้อมสระว่ายน้ำแล้วก็พื้นที่สันทนาการกลางแจ้งที่อยู่กึ่งกลาง แต่ละอาคารจะคลุมด้วยหลังคารูปสามเหลี่ยมติดตั้งไม้ระแนงสำหรับให้ไม้เลื้อยในอนาคต
บ้านสไตล์รีสอร์ท ให้สีสันและต้นไม้ช่วยให้ใจสงบ
ในช่วงชีวิตของคนเราอาจมีสถานที่ที่เรียกว่า “บ้าน” ได้มากกว่า 1 หลัง หลังหนึ่งใช้สำหรับพักก่อนออกไปต่อสู้กับความเร่งรีบในสังคมการทำงาน แม้กระนั้นอีกหลังเป็นเสมือนที่หลบภัยให้พักอาศัยหัวใจยามเหนื่อยล้า ยิ่งหากผู้ใดกันมีบ้านพักตากอากาศใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติยิ่งน่าอิจฉาเป็นที่สุด เพราะว่าพวกเรารู้กันดีว่าพลังของธรรมชาตินั้นสามารถบำบัดอารมณ์แล้วก็จิตใจให้สงบลงได้เป็นอย่างดี
เหมือนบ้านหลังนี้ที่ผู้ครอบครองทำเป็นการพักผ่อนตากอากาศเล็กๆรอบๆชายฝั่งของเมืองวิกตอเรีย โดยเจตนาว่าจะมานะสร้างบรรยากาศให้ราวกับได้กลับบ้าน แขกได้วางความเคร่งเครียดที่สะสมมาตลอดปี และก็สัมผัสความผ่อนคลายตั้งแต่นาทีแรกที่เดินเข้ามาพร้อมทั้งสนุกไปกับการโฟกัสที่ตัวเอง
บ้านหลังนี้ทำขึ้นในทศวรรษ 1980 โดยช่างก่อสร้างในเขตแดน โดยได้รับการปรับปรุงใหม่อย่างช้าๆจากเวอร์จิเนียเจ้าของบ้านใหม่ ที่ถูกใจบ้านนี้ด้วยเหตุว่าตัวบ้านเปิดเผยให้มองเห็นตนเองอย่างช้าๆมองเรียบง่ายจากถนน แม้กระนั้นเมื่อคุณก้าวเข้าสู่ตัวบ้านจะรู้สึกราวกับเป็นอีกโลกหนึ่ง
ที่เต็มไปด้วยความสว่าง เบา และโปร่งตา รอบรอบๆเต็มไปด้วยกระแสลมทำให้เกิดความรู้สึกเย็นและก็สบายถึงแม้ในช่วงฤดูร้อนที่ร้อนระอุ บ้านหลังใหญ่มีพื้นที่ใช้สอยสามส่วนแยกจากกัน ก็เลยมีพื้นที่มากมายให้ขยายออกมาสู่ที่โล่งแจ้ง โดยเฉพาะหลังบ้านที่จัดเป็นหลักที่สนามพร้อมเก้าอี้หวายเทียม สระว่ายน้ำ และก็โต๊ะรับประทานอาหารสำหรับมื้อกลางวันแบบสบายๆ
เวอร์จิเนีย มอร์ริส เคยใช้เวลาในวัยเด็กไปพักในบ้านที่เมืองแองเกิลซี ซึ่งเป็นความประทับใจที่ยังจำได้ไม่ลืม เมื่อบ้านหลังนี้ออกสู่ตลาดเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ก็ตกหลุมรักอย่างที่สุดและต้องใช้เวลาถึงหนึ่งปีครึ่งกว่าจะได้มาถือครอง (แต่มันก็คุ้มที่จะเครียด) แล้วลงมือปรับเปลี่ยนบรรยากาศภายในให้กลายเป็นบ้านพักตากอากาศพร้อมสำหรับต้อนรับการมาเยือนในทุกฤดูร้อน
“บ้านหลังนี้สะท้อนสไตล์ของฉันอย่างแน่นอน ฉันหลงใหลในสีสันแล้วก็ต้นไม้” เจ้าของบ้านกล่าว บ้านนี้ก็เลยเต็มไปด้วยทั้งคู่อย่างที่ว่า ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิพบกำมะหยี่สีน้ำเงินที่ล้อไปกับสีท้องฟ้าแล้วก็ทะเล ภาพวาด abstract สีสันจัดจ้าของ Donna Pollock ห้อยอยู่เหนือโซฟาทำให้บ้านมองมีพลัง แจกัน
แล้วก็ผ้าล้วนเป็นของช่างฝีมือท้องถิ่น พรมลายกราฟิคขนาดมหึมาใกล้กับเครื่องทำความร้อน แทรกด้วยอุปกรณ์ธรรมชาติอย่างหวาย โคมไม่ไผ่ ต้นไม้สีเขียวที่มีอยู่ทุกพื้นที่เหมือนเดินในสวน ทำให้โดยรวมบ้านดูมีชีวิตชีวา ของตกแต่งเยอะแต่ว่าไม่รกสายตา
อ่านต่อเพิ่มเติม: บ้านภูเก็ต. บ้านโมเดิร์นคลาสสิค. ออกแบบบ้านฟรี. บ้าน 2565. ทาวน์โฮม.